วันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2558

ข้อมูลพื้นฐานตำบลเมืองลี

ข้อมูลพื้นฐานตำบล
ส่วนที่ 1
ข้อมูลพื้นฐานเพื่อการวางแผน
1. สภาพทางกายภาพของชุมชน (ตำบล/แขวง)
1.1. ขนาดพื้นที่ ที่ตั้งและอาณาเขตติดต่อ
          กศน.ตำบลเมืองลี  ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 บ้านนาคา ตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน อยู่ทางทิศใต้ของอำเภอนาหมื่น  มีระยะห่างจากอำเภอนาหมื่นประมาณ 25 กิโลเมตร และอยู่ทางทิศใต้ของจังหวัดน่าน ห่างจากจังหวัดน่านประมาณ 105  กิโลเมตร
          ทิศเหนือ  ติดต่อกับ บ้านสันทะ  อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
          ทิศใต้     ติดต่อกับ ตำบลปิงหลวง  อำเภอนาหมื่น  จังหวัดน่าน
          ทิศตะวันออก  ติดต่อกับตำบลนาทะนุง  อำเภอนาหมื่น  จังหวัดแพร่
          ทิศตะวันตก    ติดต่อกับตำบลบ้านเวียง  อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่
1.2. ลักษณะทางกายภาพ
          สภาพพื้นที่ของตำบลเมืองลี ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน  คิดเป็นร้อยละ  95.95  และมีที่ราบเฉพาะบริเวณที่อยู่อาศัยและพื้นที่เกษตรกรรมบางส่วน  พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นลักษณะสูงชัน  (Slop  Land) ซึ่งมีประมาณ  3  % ของพื้นที่ทั้งหมด
     ทรัพยากรดิน
     ลักษณะดินส่วนใหญ่เป็นแบบดินภูเขาตามสภาพของพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูง  ดินตื้นมีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ เนื่องมาจากกัดกร่อน  หรือมีหญ้าคาหรือวัชพืชอื่นๆ ขึ้นปกคลุมหนาแน่นมักมีการชะล้าง พังทลายของหน้าดิน  ไม่เหมาะต่อการทำเกษตรเท่าที่ควร
     ทรัพยากรน้ำ
            มีแหล่งน้ำธรรมชาติ มีแม่น้ำสายหลักสองสาย  คือ 1. แม่น้ำลี   2. แม่น้ำอูน   มีลำห้วย 29  สาย บึง  หนอง  3  แห่ง แหล่งน้ำที่สร้างขึ้น   ฝาย   35  แห่ง
     ทรัพยากรป่าไม้
     ตำบลเมืองลี มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูง มีป่าไม้ปกคลุม ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดน้ำตกหลายแห่ง ในเขตตำบลเมืองลี มีพื้นที่ป่าไม้ประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่ มีพื้นที่ป่าไม้หนาแน่นบริเวณภูเขาและเชิงเขา ในพื้นที่การเกษตรของประชาชนมีการปลูกไม้เศรษฐกิจ เช่น ข้าวโพดเลี้ยง นอกจากนั้น ยังมีการปลูกไม้ผลเพื่อการบริโภค เช่น เงาะ ลองกอง เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ให้มากขึ้น
    
 1.3. โครงสร้างพื้นฐาน
          แบ่งเขตการปกครองตามลักษณะของเขตที่อยู่อาศัย มี  7    หมู่บ้าน  บ้านน้ำอูน หมู่ที่ 1 บ้านป่าซาง หมู่ที่ 2 บ้านนาหมอ   หมู่ที่ 3 บ้านนาคา   หมู่ที่ 4 บ้านวังน้ำเย็น   หมู่ที่ 5 บ้านน้ำแขว่ง   หมู่ที่ 6 บ้านนาม่วง หมู่ที่ ประชากร  1,664 คน     ซึ่งจำแนกเป็นรายหมู่บ้านดังนี้
หมู่ที่
ชื่อหมู่บ้าน
ชื่อผู้นำ
จำนวนครัวเรือน
จำนวนประชากร
1
บ้านน้ำอูน
นายสุจีนจ์   ฐานะ
82
317
2
บ้านป่าซาง
นายจำเริญ   จรัสบูรณาพันธุ์
34
124
3
บ้านนาหมอ
น.ส.ณฤดี   อินขวาง
55
197
4
บ้านนาคา
นางจำนง   คำฤทธิ์
75
206
5
บ้านวังน้ำเย็น
นายสำราญ   ถาลี
85
334
6
บ้านน้ำแขว่ง
นายสังวาล   คำถา
37
129
7
บ้านนาม่วง
นายสง่า   จินะแปง   
95
357
รวม
463
1,664
ที่มา ข้อมูล จปฐ.ปี 2557
๑.๔  การคมนาคมติดต่อสื่อสาร
                   การคมนาคม (ติดต่อระหว่าง ตำบลและอำเภอ รวมทั้งการคมนาคมภายในหมู่บ้าน)
ทางหลวงชนบท (รพช.) ถนนนาทะนุง-บ้านนาคา  ต.เมืองลี-อำเภอนาหมื่นระยะทาง  25.30  กิโลเมตร  ซึ่งสามารถใช้สัญจรไปยังตำบลต่างๆรวมไปถึงอำเภอและตัวจังหวัด
ทางหลวงลาดยาง(รพช.)บ้านาทะนุง-บ้านนาคา    ระยะทาง   25          กิโลเมตร
ทางหลวงลาดยาง(รพช.)บ้านาคา-บ้านน้ำแขว่ง    ระยะทาง     7.50      กิโลเมตร
ทางหลวงลาดยางในหมู่บ้าน บ้านนาหมอ-บ้านวังน้ำเย็น    ระยะทาง   4.00      กิโลเมตร
ถนนดินแดงจำนวน  10   สาย        ระยะทาง         12.500       กิโลเมตร
ถนนคอนกรีตจำนวน 39 สาย         ระยะทาง             7.50       กิโลเมตร
ถนนลาดยางจำนวน 3 สาย           ระยะทาง          10.800       กิโลเมตร

2. สภาพทางสังคมประชากร
          2.1. จำนวนครัวเรือน  จำนวนประชากร จำแนกตามเพศ กลุ่มอายุ
          ประชากร ทั้งสิ้น 463 ครัวเรือน
          จำนวนประชากร 1,664 คน
          ชาย จำนวน 862 คน คิดเป็นร้อยละ 51.80
          หญิง จำนวน 802 คน คิดเป็นร้อยละ 48.20
         
พื้นที่ตำบลเมืองลี ได้แบ่งการปกครองออกเป็น 7 หมู่บ้าน ได้แก่
หมู่ที่
ชื่อหมู่บ้าน
จำนวน
ครัวเรือนทั้งหมด
จำนวนประชากร(คน)
หญิง
ชาย
ทั้งหมด
1
2
3
4
5
6
7
บ้านน้ำอูน
บ้านป่าซาง
บ้านนาหมอ
บ้านนาคา
บ้านวังน้ำเย็น
บ้านน้ำแขว่ง
นาม่วง
82
34
55
75
85
37
95
149
97
165
165
64
100
62
168
100
169
192
60
106
67
317
124
197
206
334
129
357
รวม
463
802
862
1,664
ที่มา สำนักทะเบียนราษฎร์ 2557



ที่
ช่วงอายุประชากร
จำนวนชาย (คน)
จำนวนหญิง (คน)
รวม (คน)
1
น้อยกว่า 1 ปี เต็ม
1
3
4
2
1 ปีเต็ม – 2 ปี
6
6
12
3
3 ปีเต็ม – 5 ปี
24
16
40
4
6 ปีเต็ม – 11 ปี
56
58
114
5
12 ปีเต็ม – 14 ปี
30
21
51
6
15 ปีเต็ม – 17 ปี
36
42
78
7
18 ปีเต็ม 25 ปี
101
87
188
8
26 ปีเต็ม – 49 ปี
326
301
627
9
50 ปีเต็ม – 60 ปี
149
155
304
10
มากกว่า 60 ปีเต็มขึ้นไป
133
113
246
รวมทั้งสิ้น
862
802
1}664
ที่มา  ข้อมูล จปฐ.ปี 2557




2.2. ศาสนา ชาติพันธุ์ และระดับการศึกษา
·       ศาสนา  ประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
·       ภาษาที่ใช้ในท้องถิ่น ภาษาไทยกลาง
·       ความเชื่อ  เชื่อตามคำสอนของผู้ใหญ่ และเชื่อในหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
·       ขนบธรรมเนียมประเพณี
ประเพณีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันสำคัญต่างๆทางศาสนา 

ที่
ศาสนา
ชาย (คน)
หญิง   (คน)
รวม   (คน)
1
พุทธ
861
800
1,660
2
คริสต์
1
2
3
3
อิสลาม



4
ฮินดู



5
อื่นๆ




รวม
862
802
1,664


ระดับการศึกษา ระดับการศึกษาของประชากรตำบลเมืองลี จากการสำรวจข้อมูล จปฐ.ปี2557  พบว่าส่วนใหญ่จบการศึกษาภาคบังคับ โดยแยกตามระดับได้ดังนี้
ที่
ระดับการศึกษา
จำนวนชาย (คน)
จำนวนหญิง (คน)
รวม (คน)
1
ไม่เคยศึกษา
9
13
22
2
อนุบาล/ศูนย์เด็กเล็ก
29
19
48
3
ต่ำกว่าชั้นประถมศึกษา
5
4
9
4
จบชั้นประถมศึกษา
430
443
873
5
มัธยมศึกษาตอนต้น
86
73
159
6
มัธยมศึกษาตอนปลาย
215
154
369
7
อนุปริญญา หรือ เทียบเท่า
36
14
50
8
ปริญญาตรี หรือเทียบเท่า
51
82
133
9
สูงกว่าปริญญาตรี
1
-
1
รวม
862
802
1,664


3. สภาพทางเศรษฐกิจ
โครงสร้างฐานอาชีพของชุมชน รายได้เฉลี่ยของประชากร
  1. อาชีพหลัก ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้แก่ การปลูกข้าวโพด  ข้าว
เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว ปลูกพืชผัก  ไม้ผล
                 2.  อาชีพเสริม ได้แก่ อาชีพรับจ้าง
§  ประกอบอาชีพหลัก คือ การเกษตรกรรมประเภท ทำนา ทำไร่ ทำสวน เป็นส่วนใหญ่ คิดเป็นร้อยละ 95
§  ประกอบอาชีพรอง คือ รับจ้างทั่วไป ทำงานบริษัท โรงงานอุตสาหกรรม ค้าขาย คิดเป็น  ร้อยละ 3
§  ประกอบอาชีพอื่นๆ เช่น รับราชการ รัฐวิสาหกิจ ละธุรกิจส่วนตัว มีเป็นส่วนน้อย คิดเป็นร้อยละ 2

4. แหล่งวิทยาการชุมชน และทุนด้านงบประมาณที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์เพื่อการจัดการศึกษา
4.1. ประเภทบุคคล ประเภทสถานที่และองค์กร
ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ความรู้ความสามารถ
ที่อยู่
นายหลิด   ตันแฮด
ดนตรีพื้นเมือง สะล้อ,ซอ,ซึง
บ้านนาม่วง ม.7 ต.เมืองลี
อ.นาหมื่น จ.น่าน
นายอินสม  มาอิ่น
ภาษาล้านนา
บ้าน้ำแขว่ง ม.6 ต.เมืองลี
อ.นาหมื่น จ.น่าน
นายเศรษฐศักดิ์ ศรีแก้ว
ดนตรีไทย-ดนตรีพื้นเมือง
บ้านาคา ม.4 ต.เมืองลี อ.นาหมื่น จ.น่าน

4.2. ประเภททรัพยากรธรรมชาติ
ชื่อแหล่งเรียนรู้
ประเภทแหล่งเรียนรู้
ที่ตั้ง
น้ำตกตาดหมอก
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
บ้านน้ำอูน หมู่ 1 ต.เมืองลี อ.นาหมื่น  จ.น่าน  55180
น้ำตกนางกวัก
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
บ้านนาหมอ หมู่ 3  ต.เมืองลี อ.นหมื่น  จ.น่าน  55180


4.3. ประเภทกิจกรรมทางสังคมวัฒนธรรม
ชื่อแหล่งเรียนรู้อื่น
ประเภทแหล่งเรียนรู้
ที่ตั้ง
วัดนาคา
โบราณสถาน/ประเพณีวัฒนธรรม
หมู่ 4 ต.เมืองลี  อ.นาหมื่น  จ.น่าน 51180 

วัดป่าซาง
โบราณสถาน/ประเพณีวัฒนธรรม
หมู่ 2 ต.เมืองลี  อ.นาหมื่น  จ.น่าน 51180 
วัดน้ำอูน
โบราณสถาน/ประเพณีวัฒนธรรม
หมู่ 1 ต.เมืองลี  อ.นาหมื่น  จ.น่าน 51180 
พระธาตุผาช้าง
สถานที่ศักดิ์สิทธ์
หมู่ 3 ต.เมืองลี  อ.นาหมื่น  จ.น่าน 51180 
วิสาหกิจชุมชนกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าบ้านป่าซาง
เครื่องแต่งกาย
บ้านป่าซางหมู่ 2 ต.เมืองลี  อ.นาหมื่น  จ.น่าน 51180 
กลุ่มทอผ้าผู้สูงอายุ
เครื่องแต่งกาย
บ้านหลักหมื่น  หมู่ 1 ต.นาทะนุง  อ.นาหมื่น  จ.น่าน  55180
กลุ่มดนตรีพื้นเมือง(วงภูซาง)
ศิลปการแสดงและดนตรี
นักเรียนโรงเรียนอนุบาลเมืองลี
ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
เศรษฐกิจพอเพียง
บ้านน้ำอูน หมู่ 1 ต.เมืองลี อ.นาหมื่น  จ.น่าน  55180

4.4. ต้นทุนด้านงบประมาณ (ระบุแหล่งต้นทุนด้านงบประมาณของชุมชน)
§  อาสาสมัครสาธารณสุข                                               จำนวน 58 คน
§  กลุ่มสตรีแม่บ้าน                                                      จำนวน 7 กลุ่ม
§  กลุ่มเยาวชน                                                           จำนวน 7 กลุ่ม
§  กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต                                          จำนวน 7 กลุ่ม
§  กลุ่มแม่บ้านเกษตร                                                    จำนวน 7 กลุ่ม
§  คณะกรรมการหมู่บ้าน                                                จำนวน 7 กลุ่ม
5. ปัญหาและความต้องการทางการศึกษาของประชาชนที่จำแนกตามลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย
5.1. ด้านการรู้หนังสือ
·       ปัญหา 
ประชากรในพื้นที่ส่วนใหญ่ในตำบลเมืองลีได้รับการศึกษาอย่างน้อยระดับประถมศึกษา ส่วนใหญ่ปัญหาที่พบคือการลืมหนังสือในกลุ่มผู้สูงวัย
·       ความต้องการทางการศึกษา
ต้องการให้มีกิจกรรมในการส่งเสริมการอ่าน การฟัง และการเรียนรู้ เพื่อการทบทวนความรู้ ในการเขียน การอ่านภาษาไทย
5.2. ด้านการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สายสามัญ และ ปวช.)
·       ปัญหา
เนื่องจากสภาพสังคมและปัญหาที่เกิดขึ้นในชุมชน ได้แก่ ยาเสพติด ชู้สาว ปัญหาความยากจน  ทำให้ประชาชนต้องมีการดิ้นรนเพื่อการเลี้ยงชีพของตนเอง ทำให้มีเยาวชนที่เรียนภาคการศึกษาขั้นพื้นฐานในระบบโรงเรียนที่ประสบปัญหาดังกล่าวต้องออกโรงเรียนกลางคัน  ไม่ได้เข้ารับการศึกษาต่อ ในระบบโรงเรียน
·       ความต้องการทางการศึกษา
ส่งเสริมการเรียนรู้ให้กลุ่มเป้าหมายได้จบการศึกษาภาคบังคับ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
5.3. ด้านอาชีพ
·       ปัญหา
จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร รายได้หลักจึงมาจากภาคการเกษตร ไม่มีรายได้อื่นเสริม
·       ความต้องการทางการศึกษา
ส่งเสริมอาชีพโดยอาศัยต้นทุนทางสังคม หรือวัตถุดิบในท้องถิ่นเป็นหลัก หรือความชำนาญในฝีมือและทักษะต่างๆ   เพื่อเป็นช่องทางการประกอบอาชีพและสามารถสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน
5.4. ด้านการพัฒนาทักษะชีวิต
·       ปัญหา
จากสภาพสังคม การเมืองที่เปลี่ยนไปอย่างทันท่วงที ส่งผลทำให้ประชาชนปรับตัวและรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ทัน  ประชาชนบางส่วนยังขาดความเข้าใจในบางเรื่อง  เช่น  นโยบายรัฐบาลที่เปลี่ยนไป นโยบายค่านิยม ๑๒ ประการ
·       ความต้องการทางการศึกษา
 กศน.ตำบลต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมและให้ความรู้ให้แก่ประชาชนในตำบลให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ และนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับการพัฒนาด้านทักษะอย่างทั่วถึงและเต็มที่
5.5. ด้านการพัฒนาสังคมและชุมชน
·       ปัญหา
สภาพสังคมและชุมชนที่เปลี่ยนแปลงไป  ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม ประเพณี ค่านิยมต่างๆ การอนุรักษ์ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ซึ่งเยาวชนรุ่นหลังเริ่มไม่เห็นความสำคัญของสิ่งเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องมีการส่งเสริมและจัดกระบวนการเรียนรู้ด้านสังคมและชุมชน
ความต้องการทางการศึกษา
 กศน.ตำบลต้องจัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ โดยให้นักศึกษาและเยาวชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วมใน การพัฒนาชุมชนของตนเอง โดยจัดกิจกรรมร่วมกับเครือข่าย หรือการเขียนโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมในชุมชนโดยใช้งบประมาณของ กศน.
5.6. ด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
·       ปัญหา
จากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ประชาชนต้องการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ให้กับครัวเรือน
·       ความต้องการทางการศึกษา
ส่งเสริมและจัดกิจกรรมเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ และลดรายจ่าย  ได้แก่ การส่งเสริมการทำบัญชีครัวเรือน  ส่งเสริมการปลูกพืชสวนครัวรั่วกินได้  ส่งเสริมการทำปุ๋ยหมักชีวภาพเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เป็นต้น
5.7. ด้านการศึกษาตามอัธยาศัย
·       ปัญหา
คนไทยติดอันดับท้ายสุดในการอ่านหนังสือ และเริ่มขาดทักษะในการอ่านการเขียน รวมทั้งขาดทักษะการเรียนรู้
·       ความต้องการทางการศึกษา
จัดกิจกรรมร่วมกับชุมชนเพื่อส่งเสริมการอ่านหนังสือ  หรือการเรียนรู้จากสื่อต่างๆ ได้แก่  กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในบ้านหนังสืออัจฉริยะ, กิจกรรมเสริมทักษะการเรียนรู้



ส่วนที่ 2
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อม กศน. ตำบล / แขวง (SWOT Analysis)
1. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน
1.1 จุดแข็งของ กศน.ตำบล/แขวง (Strengths - S)
ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน.ตำบล/แขวง วิทยากร)
1.    กศน.ตำบลเมืองลี   มีครู กศน.ตำบล 1 คน และ ครูอาสามัครการศึกษานอกโรงเรียน จำนวน 1 คนสามารถดูแลรับผิดชอบการจัดกระบวนการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2.    กศน.ตำบลมีคณะกรรมการที่เป็นภาคีเครือข่ายให้การสนับสนุนช่วยเหลือการจัดกิจกรรมในตำบลเมืองลีอย่างมีประสิทธิภาพ
3.    ตำบลเมืองลี มีวิทยากรที่เป็นภูมิปัญญา      ด้านอาชีพ    ทั้งที่ตั้งเป็นองค์กร และตัวบุคคลที่สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับนักศึกษา และประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี
                    ด้านงบประมาณ
กศน.ตำบลเมืองลี ได้รับงบจัดสรรในการจัดกิจกรรมด้านต่างๆอย่างต่อเนื่องจาก  ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอนาหมื่น เพื่อจัดสรรตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายต่างๆ
ด้านอาคารสถานที่ สื่อ วัสดุอุปกรณ์
1. อาคาร กศน.ตำบลเมืองลี ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการจัดสร้างจากสำนักงาน
กศน. โดยตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนบ้านนาคา หมู่ที่    4 ตำบลเมืองลี  อำเภอนหมื่น จังหวัดน่าน
2. กศน.ตำบลเมืองลี ได้รับการจัดสรรหนังสือเรียนรายวิชาบังคับ และสื่อ CD

1.2  จุดอ่อนของ กศน.ตำบล / แขวง (Weaknesses - W)
ด้านบุคลากร (ครู กศน.ตำบล/แขวง คณะกรรมการ กศน.ตำบล/แขวง วิทยากร)
1.         จบการศึกษาไม่ตรงกับรายวิชาพื้นฐาน
2.        คณะกรรมการไม่เห็นความสำคัญของการจัดการประชุมชี้แจงแนวทางการทำงานของ กศน.ตำบล
ด้านงบประมาณ
1.         งบประมาณที่ได้รับจัดสรรในการจัดทำกิจกรรมไม่เพียงพอต่อเป้าหมายที่ระบุไว้ในแผนการทำงาน
ด้านอาคารสถานที่ สื่อ วัสดุอุปกรณ์
1.         หนังสือเรียนรายวิชาเลือกที่ได้รับจัดสรรมีน้อยไม่พอกับจำนวนนักศึกษา
2.         หนังสือที่ใช้หมุนเวียนในบ้านหนังสืออัจฉริยะไม่เพียงพอ  ไม่มีความหลากหลาย

2. การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก
2.1 โอกาส (Opportunities - O)
ด้านนโยบาย กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
     1. มีกำหนดหลักการบริหารเชิงกลยุทธ์และการจัดการที่ชัดเจน
     2. มีจัดทำแผนการปฏิบัติทุกกิจกรรม
ด้านความปลอดภัยในพื้นที่
     กศน.ตำบลเมืองลี ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนบ้านนาคา มีนักศึกษาและประชาชนช่วยดูแล
ห้องเรียนอาคารเรียนให้มีความเรียบร้อย
ด้านสังคม-วัฒนธรรม ด้านเศรษฐกิจ
1.    ประชาชนในพื้นมีวิถีชีวิตที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี นับถือศาสนาพุทธ และเคารพผู้เฒ่าผู้แก่
2.    ประชาชนในพื้นที่มีอาชีพเกษตรกรรมเป็นแบบเกษตรผสมผสาน
3.    มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่เป็นศูนย์รวมจิตรใจของประชาชนในพื้นที่
ด้านเทคโนโลยี/การคมนาคม ติดต่อสื่อสาร
1.    มีทางการคมนาคมที่สะดวก นักศึกษาและประชาชนสามารถมาใช้บริการได้
2.    มีอินเตอร์เน็ตเพื่อให้บริการใน กศน.
ด้านสิ่งแวดล้อม
1.    มีสภาพแวดล้อมที่ดี มีป่าไม้และป่าอนุรักษ์ของชุมชน
2.    มีน้ำตกธรรมชาติ มีอ่างเก็บน้ำ สำหรับทำการเกษตรของชุมชน

2.2 อุปสรรค/ความเสี่ยง (Threats - T)
ด้านเทคโนโลยี/การคมนาคม ติดต่อสื่อสาร
1.    สัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่บ้านวังน้ำเย็น หมู่ 5  สัญญาณน้อยและไม่มีสัญญาณเลย ซึ่งทำให้การประสานงานร่วมกับชุมชนในพื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างล่าช้า
2.    เส้นทางคมนาคมในพื้นค่อนข้างชำรุด ทำให้การเดินทางเพื่อการประสานงานไม่ค่อยสะดวก







ส่วนที่ 3
แนวทาง/กลยุทธ์การดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
กศน.ตำบลเมืองลี

ปรัชญา
สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้    มุ่งสู่ความพอเพียง 
วิสัยทัศน์ 
สร้างสังคมอุดมปัญญา   ด้วยการจัดการให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต  แก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพและทั่วถึง
อัตลักษณ์ 
พึ่งตนเอง อย่างพอเพียง
เอกลักษณ์
          มีความรู้  อยู่อย่างพอเพียง
          สีประจำสถานศึกษา
สีฟ้า
          คำขวัญสถานศึกษา 
                             มีความรู้ เชิดชูคุณธรรม น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียง
          พันธกิจ
                   1. จัดและส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีคุณภาพ
                   2. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่   ในการจัดการศึกษานอก 
      ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
                   3. ส่งเสริมชุมชนให้พัฒนากระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต   เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
                  
4. พัฒนาและส่งเสริมการนำเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อการศึกษา
        ตลอดชีวิต
                   5. พัฒนาบุคลากรเพื่อการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย


                 
เป้าประสงค์และตัวชี้วัดความสำเร็จ
เป้าประสงค์
ตัวชี้วัดความสำเร็จ
1.คนไทยได้รับโอกาสทางการศึกษาอย่างทั่วถึง ครอบคลุมและเป็นธรรม
2.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทั้งในและนอกพื้นที่ ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
3. ส่งเสริมชุมชนให้พัฒนากระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต   เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
4. พัฒนาและส่งเสริมการนำเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพต่อการศึกษาตลอดชีวิต
5. พัฒนาบุคลากรเพื่อการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย

1.ร้อยละของคนไทยกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย  อย่างทั่วถึง    ครอบคลุมและเป็นธรรม
1.1 การพัฒนาคุณภาพชีวิต
1)  ผู้ด้อยโอกาส
2) ผู้พิการหรือทุพพลภาพ
3)  ผู้สูงอายุ
4) ประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจใฝ่เรียนรู้
1.2 การพัฒนาความสามารถในเชิงการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
1)  ผู้อยู่ในวัยแรงงานที่อยู่นอกระบบ
2)  ผู้อยู่ในวัยแรงงานที่อยู่ในระบบ
2.  ผู้เรียนและผู้รับบริการได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพได้มาตรฐานและมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์อันนำไปสู่การเป็นคนไทยยุคใหม่  ซึ่งมีความเชื่อมั่นศรัทธาในการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (Democracy)  มีคุณธรรม  จริยธรรม  มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย (Decency) และมีภูมิคุ้มกันภัยจากยาเสพติด (Drug-Free)
3. ภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมดำเนินการจัดการศึกษาตลอดชีวิต
4. ชุมชนมีการจัดการความรู้และกระบวนการเรียนรู้เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต
5. แหล่งการเรียนรู้มีอยู่อย่างทั่วถึงและได้รับการพัฒนาเพื่อสนองตอบความต้องการการ เรียนรู้ของประชาชน
 6. หน่วยงานและสถานศึกษานำเทคโนโลยีเพื่อการศึกษามาใช้ในการบริการการเรียนรู้แก่ประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ
7. บุคลากรมีสมรรถนะสูงขึ้นในการดำเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
กลยุทธ์
กลยุทธ์ที่ 1 ลุยถึงที่ (การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างหลากหลายและทั่วถึง) 
โดยการดำเนินงานประชาสัมพันธ์กิจกรรมงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัยมีการประสานความร่วมมือกับชุมชนในการจัดกิจกรรม  จากเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างทั่วถึง
กลยุทธ์ที่ 2 มีภาคีเครือข่าย (สร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานและเครือข่ายระดับพื้นที่)  
 โดยการให้ความร่วมมือกับเครือข่ายในการจัดและส่งเสริมการเรียนรู้  กำหนดให้มีการทำข้อตกลงความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน  กำหนดให้มีการสนับสนุนงบประมาณระหว่างหน่วยงาน  สร้างความสัมพันธ์ให้เครือข่ายเข้าใจงาน กศน. การเข้าร่วมงานกิจกรรมของหน่วยงานเครือข่าย  การจัดกิจกรรมและมีส่วนร่วมของเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง
กลยุทธ์ที่ 3 หลากหลายแหล่งเรียนรู้ (ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ชุมชน)
               โดยการประสานความร่วมมือจากหน่วยงานเครือข่าย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำ
ท้องถิ่นในการสนับสนุนส่งเสริมการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ ประเภทศูนย์การเรียนชุมชน  แหล่งเรียนรู้ของชุมชน ห้องสมุดประชาชนอำเภอ สำนักงานศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ  การพัฒนาครูและบุคลากร  คณะกรรมการศูนย์การเรียนชุมชนในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานในการประเมิน กศน.ตำบล ส่งเสริมการประเมินสุดยอดแหล่งเรียนรู้และการจัดทำระบบสารสนเทศแหล่งเรียนรู้ให้เป็นปัจจุบัน
กลยุทธ์ที่ 4 สู่ใจผู้เรียน (พัฒนากระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลาย)
                โดยวิธีการสำรวจและศึกษาข้อมูลชุมชน  นำสภาพปัญหาและข้อมูลตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมาจัดทำแผนการพัฒนาและออกแบบการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย  จากการมีส่วนร่วมของบุคลากรและผู้เกี่ยวข้อง  ในการจัดทำหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการคิด  วิเคราะห์และตัดสินใจ  ในการดำเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
     กลยุทธ์ที่ 5 บริการเปี่ยมคุณภาพ (การพัฒนาการบริหารจัดการที่มีคุณภาพของสถานศึกษา)
          การวางโครงสร้างการบริหารงานสถานศึกษา  การมอบหมายหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบ  ดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้  ความสามารถในการปฏิบัติงาน  พัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา  ส่งเสริมคุณธรรม   จริยธรรม  ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  การพัฒนาระบบการทำงานเป็นทีม  ตลอดจนการสร้างเสริมขวัญกำลังใจของบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น